ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม (Learning
Theory : Behaviorism)
http://www.novabizz.com/NovaAce/Learning/Behavioral_Learning_Theories.htm ได้รวบรวมเกี่ยวกับทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมไว้ดังนี้ ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมเน้นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นโดยอาศัย
ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้า (Stimulas) และ
การตอบสนอง (Response) โดยอินทรีย์จะต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้าและ
การตอบสนองอันนำไปสู่ ความสามารถในการแสดงพฤติกรรม คือการเรียนรู้นั่นเอง
ผู้นำที่สำคัญของ กลุ่มนี้ คือ พาฟลอฟ (Ivan Pavlov) ธอร์นไดร์
(Edward Thorndike) และสกินเนอร์ (B.F.Skinner)
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
(Classical Conditioning)
ผู้ที่ทำการศึกษาทดลองในเรื่องนี้
คือ พาฟลอฟ ซึ่งเป็นนักสรีระวิทยาชาวรัสเซีย เขาได้ทำการศึกษาทดลองกับสุนัขให้
ยืนนิ่งอยู่ในที่ตรึงใน ห้องทดลอง
ที่ข้างแก้มของสุนัขติดเครื่องมือวัดระดับการไหลของน้ำลาย การทดลองแบ่งออกเป็น 3
ขั้น คือ ก่อนการวางเงื่อนไข (Before Conditioning) ระหว่างการวางเงื่อนไข
(During Conditioning) และ หลังการวางเงื่อนไข (After
Conditioning) อาจกล่าวได้ว่า การเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
คือ การตอบสนอง ที่เป็นโดยอัตโนมัติเมื่อนำ สิ่งเร้าใหม่มาควบคุมกับสิ่งเร้าเดิม
เรียกว่า พฤติกรรมเรสปอนเด้นท์ (Respondent Behavior) พฤติกรรมการเรียนรู้นี้เกิดขึ้นได้ทั้งกับมนุษย์และสัตว์
คำที่พาฟลอฟใช้อธิบายการทดลองของเขานั้น ประกอบด้วยคำสำคัญ ดังนี้
-
สิ่งเร้าที่เป็นกลาง (Neutral Stimulus) คือ
สิ่งเร้าที่ไม่ก่อให้เกิดการตอบสนอง
-
สิ่งเร้าที่ไม่ได้วางเงื่อนไข (Unconditioned Stimulus หรือ US ) คือ สิ่งเร้าที่ทำให้เกิดการตอบสนองได้ตามธรรมชาติ
- สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข
(Conditioned Stimulus หรือ CS) คือ
สิ่งเร้าที่ทำให้เกิดการตอบสนองได้หลังจากถูกวางเงื่อนไขแล้ว
การตอบสนองที่ไม่ได้ถูกวางเงื่อนไข
(Unconditioned Response หรือ UCR) คือการตอบสนองที่เกิดขึ้น ตามธรรมชาติ
การตอบสนองที่ถูกวางเงื่อนไข
(Conditioned Response หรือ CR) คือ
การตอบสนองอันเป็นผลมาจากการเรียนรู้ที่ถูกวางเงื่อนไขแล้ว
กระบวนการสำคัญอันเกิดจากการเรียนรู้ของพาฟลอฟ มีอยู่ 3 ประการ
อันเกิดจากการเรียนรู้แบบวางเงื่อนไข คือ
-
การแผ่ขยาย (Generalization) คือ ความสามารถของอินทรีย์ที่จะตอบสนองในลักษณะเดิมต่อสิ่งเร้าที่มี
ความหมายคล้ายคลึงกันได้
-
การจำแนก (Discrimination) คือ
ความสามารถของอินทรีย์ในการที่จะจำแนกความแตกต่างของสิ่งเร้าได้
-
การลบพฤติกรรมชั่วคราว (Extinction) คือ
การที่พฤติกรรมตอบสนองลดน้อยลงอันเป็นผลเนื่องมาจากการ ที่ไม่ได้รับสิ่งเร้า
ที่ไม่ได้ถูกวางเงื่อนไข การฟื้นตัวของการตอบสนองที่วางเงื่อนไข (Spontaneous
recovery) หลังจากเกิด การลบพฤติกรรม ชั่วคราวแล้ว
สักระยะหนึ่งพฤติกรรมที่ถูกลบเงื่อนไขแล้วอาจฟื้นตัวเกิดขึ้นมาอีก
เมื่อได้รับการกระตุ้นโดยสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข
Apinya (https://www.gotoknow.org/posts/201068)
ได้รวบรวมเกี่ยวกับทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมไว้ดังนี้ ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม เน้นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นโดยการเชื่อมโยงระหว่าง
สิ่งเร้า (Stimulus-คือสิ่งที่ทำให้เกิดพฤติกรรม) และการตอบสนอง (Response
- ตัวพฤติกรรม)
โดยอินทรีย์จะต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนองอันนำไปสู่ความสามารถในการแสดงพฤติกรรม
คือ เกิดการเรียนรู้นั่นเอง ซึ่งจะเน้นเกี่ยวกับสิ่งที่สังเกตได้เท่านั้น
ในการเรียนรู้ความจริงกลุ่มนี้ก็สนใจเกี่ยวกับกระบวนการคิดและปฏิกิริยาซึ่งเกิดขึ้นภายในเหมือนกัน
แต่ว่ายากแก่การสังเกตและรู้สึกว่ามิใช่เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
ดังนั้นจึงสนใจเฉพาะสิ่งที่สังเกตได้เท่านั้น
การที่กลุ่มนี้ให้ความสนใจกระบวนการคิดซึ่งเกิดขึ้นภายในและปฏิกิริยาของผู้เรียนน้อยเพราะศึกษาทดลองโดยสัตว์ชั้นต่ำ
เช่น หนู เป็นต้น ผู้นำที่สำคัญของกลุ่มนี้ เช่น พาพลอฟ (Ivan
Pavlov) ธอร์นไดค์ (Edward
Thondike) และ สกินเนอร์
(B.F Skinner) พื้นฐานความคิดของกลุ่มพฤติกรรมนิยมคือสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์จะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรม
แนวคิดที่สำคัญเกี่ยวกับทฤษฎีพฤติกรรมนิยม
1. พฤติกรรมทุกอย่างที่เกิดโดยการเรียนรู้และสามารถสังเกตได้
2.
พฤติกรรมแต่ละชนิดเป็นผลรวมของการเรียนรู้ที่เป็นอิสระหลายอย่าง
3. แรงเสริม(Reinforcement)
ช่วยทำให้พฤติกรรมเกิดขึ้นได้
ทฤษฎีพฤติกรรมนิยมแบ่งพฤติกรรมมนุษย์ออกเป็น
2 กลุ่ม
1. Respondent
Behavior หมายถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยสิ่งเร้า
เมื่อมีสิ่งเร้าตอบสนองก็จะเกิดขึ้น ซึ่งสามารถสังเกตได้ อธิบายได้โดย
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค (Classical Conditioning Theory)
2. Operant
Behavior เป็นพฤติกรรมที่บุคคลหรือสัตว์แสดงพฤติกรรมตอบสนองออกมา
(Emitted) โดยปราศจากสิ่งเร้าที่แน่นอน และพฤติกรรมนี้มีผลต่อสิ่งแวดล้อม
อธิบายได้โดยทฤษฎี Operant Conditioning Theory
กิตติ ยกเทพ (https://www.gotoknow.org/posts/510835) ได้รวบรวมเกี่ยวกับทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมไว้ดังนี้
นักคิด นักจิตวิทยาในกลุ่มพฤติกรรมนิยมมองธรรมชาติของมนุษย์ในลักษณะเป็นกลาง คือ
ไม่ดีไม่เลว (neutral-passive) การกระทำต่าง ๆ เกิดจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก
พฤติกรรมของมนุษย์เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้า (stimulus-response)
การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง
กลุ่มพฤติกรรมนิยมให้ความสำคัญกับ “พฤติกรรม” มาก
เพราะพฤติกรรมเป็นสิ่งที่สังเกตเห็นได้ สามารถวัดและทดสอบได้
สรุปจากที่กล่าวมาข้างต้นได้ว่า ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมเป็นการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นโดยอาศัย
ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้า (Stimulas) และ การตอบสนอง (Response) จะนิยมมองธรรมชาติของมนุษย์ในลักษณะเป็นกลาง
คือ ไม่ดีไม่เลว (neutral-passive) การกระทำต่าง ๆ เกิดจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งจะเน้นเกี่ยวกับสิ่งที่สังเกตได้เท่านั้น
ที่มา
http://www.novabizz.com/NovaAce/Learning/Behavioral_Learning_Theories.htm. ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม (Behavioral
Learning Theories). เข้าถึงเมื่อ 1 กันยายน 2558.
Apinya. [Online] https://www.gotoknow.org/posts/201068. ทฤษฎีพฤติกรรมนิยม. เข้าถึงเมื่อ 1 กันยายน 2558.
กิตติ ยกเทพ. [Online] https://www.gotoknow.org/posts/510835.
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม. เข้าถึงเมื่อ 1 กันยายน 2558.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น